โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า

ลดความเครียดเเละเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

            เนื่องจากมีรายงานการศึกษาพบว่าการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานนั้นมีความสัมพันธ์กับอาการซึมเศร้าและความกังวล เมื่อมีการปรับเปลี่ยนลดเวลาในการนั่งทำงานลง เเละเพิ่มการยืนทำงาน 66 นาทีต่อวัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน ก็พบว่ากลุ่มผู้เข้าร่วมศึกษามีผลการประเมินทางด้านอารมณ์ที่ดีขึ้น โดยรู้สึกมีพลัง ความสุขและมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งสามารถลดความเครียดในการทำงานได้ด้วย จึงทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

            ทั้งนี้โต๊ะที่ใช้ยืนทำงานควรมีขนาดที่เหมาะสมกับการวางอุปกรณ์การทำงาน และความสูงที่พอดีกับผู้ใช้งาน เช่น ในการดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระดับสายตา และการวางแขนและข้อศอก เพื่อให้ผู้ใช้งานอยู่ในท่วงท่าที่รู้สึกสบายสามารถเคลื่อนไหวและทำงานได้อย่างคล่องตัวและควรยืนเฉลี่ย 2 – 3 ชั่วโมง แล้วจึงกลับไปนั่ง ก่อนจะกลับมายืนทำงานอีกครั้ง ดังนั้นมีพื้นที่สำหรับเปลี่ยนโต๊ะทำงานหรือพื้นที่ที่ทำงานอยู่ประจำให้กลายเป็นโต๊ะที่สามารถยืนทำงานได้จึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและผลลัพธ์การทำงานที่ดีต่อองค์กร

ลดอาการปวดหลัง

            มีนักวิจัยจากหลายหลายกลุ่มที่สนใจศึกษาเรื่องผลของการยืนทำงานของพนักงานต่ออาการปวดหลังในระยะยาว ผลการศึกษาพบว่า พนักงานผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยใช้เวลายืนทำงานโดยเฉลี่ย 66 นาทีต่อวัน นอกจากนี้ยังพบว่าอาการปวดหลังและคอของกลุ่มคนเหล่านี้ลดลงไปถึง 54% ดังนั้นการยืนทำงานเพียงวันละชั่วโมงก็ช่วยให้อาการปวดหลังดีขึ้นได้

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

            ประโยชน์ของการยืนตอการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจนั้นได้ถูกค้นพบมานานกว่า 60 ปีที่แล้ว เมื่อนักวิจัยศึกษาทำการศึกษาในปี 1953 เพื่อเปรียบเทียบอัตราการตายด้วยโรคหัวใจระหว่างพนักงานเดินตั๋วรถบัสที่ยืนทำงานทั้งวันกับคนขับรถบัสที่นั่งทำงานตลอดเวลา ผลการศึกษาพบว่าพนักงานเดินตั๋วนั้นมีความเสี่ยงจากการตายด้วยโรคหัวใจน้อยกว่าคนขับรถบัสถึง 50% นอกจากนี้การศึกษาในปัจจุบันยังพบว่าการมีวิถีชีวิตที่เคลื่อนไหวร่างกายน้อยนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงถึง 90% การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของของเหลวต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น จึงทำให้ลดความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้

ลดความอ้วนและภาวะน้ำหนักเกิน

            ความอ้วนและภาวะน้ำหนักเกินนั้นนอกจากจะเกิดจากการกินอาหารที่มีแคลอรีสูงแล้วยังเกิดจากการขาดการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน จากการศึกษาพบว่า พนักงานออฟฟิซกว่า 44% น้ำหนักเพิ่มสูงขึ้นจากตั้งแต่เริ่มทำงาน 53% ของผู้เข้าร่วมการศึกษาเชื่อว่าการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการนั่งทำงานตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าการยืนทำงานแทนการนั่งสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำหนักเกินได้ โดยการเผาผลาญพลังงานไปมากกว่า 50 แคลอรีต่อชั่วโมง ถ้าในหนึ่งสัปดาห์เรายืนทำงาน 3 ชั่วโมงก็จะลดไปได้ 750 แคลอรี หากทำต่อเนื่องเป็นเวลานานก็สามารถเห็นผลในการลดน้ำหนักได้ ดังนั้นการยืนทำงานสามารถช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักส่วนเกิน

ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2

            น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดของร่างกายที่ได้รับจากการรับประทานอาหาร ดังนั้นระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มสูงสุดหลังมื้ออาหารและจะมีการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินเพื่อนำน้ำตาลไปใช้หรือเก็บสะสมในร่างกาย ระดับน้ำตาลจึงกลับมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง มีการศึกษาในปี 2013 พบว่าการยืนทำงานโดยเฉพาะหลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันหรือช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้มากถึง43% เมื่อเทียบกับการนั่งทำงาน ดังนั้นการยืนช่วยให้ประสิทธิภาพในการเผาผลาญทำได้ดีขึ้นและช่วยลดความ เสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2