ระบบติดตามรถโฟล์คลิฟท์ในโกดัง

บริบทและปัญหาที่พบ

ในโกดังสินค้าที่มีการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์ยกของและ Fork-lift เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บและขนส่งสินค้า พบปัญหาการชนกันระหว่างเครื่องจักรทั้งสอง เนื่องจากความเคลื่อนไหวที่แปรผันและการทำงานในพื้นที่ที่คับแคบ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การชนกันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการทำงาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษา

แนวทางแก้ไขด้วยระบบติดตามรถยกแบบเรียลไทม์

1. การติดตั้งเซ็นเซอร์ในตัวหุ่นยนต์และรถโฟล์คลิฟท์

   • ติดตั้งเซ็นเซอร์ระยะใกล้ (proximity sensors) ที่ตัวหุ่นยนต์และรถยก เพื่อให้สามารถตรวจจับระยะห่างระหว่างกันแบบเรียลไทม์

   • เซ็นเซอร์เชื่อมต่อเข้ากับระบบ RTLS (Real-Time Location System) ที่ใช้เทคโนโลยี AoA (Angle of Arrival) เพื่อให้ได้ข้อมูลความแม่นยำระดับ sub-meter

2. การตรวจจับและการหยุดการเคลื่อนไหว

   • เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบว่ามีการเข้าใกล้กันเกินค่าที่กำหนด ระบบจะสั่งหยุดการเคลื่อนไหวของทั้งหุ่นยนต์และรถยกทันที

   • การหยุดอัตโนมัตินี้ช่วยป้องกันการชนที่อาจเกิดขึ้นในจุดที่มีความเสี่ยงสูง

3. การแจ้งเตือนแก่ผู้ควบคุม

   • ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผ่านเสียงและไฟทันทีในขณะเดียวกับที่พบสัญญาณเข้าใกล้เกินเกณฑ์

   • ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ควบคุมระบบจะได้รับแจ้งเตือนเพื่อดำเนินการแก้ไขหรือทำการตรวจสอบสถานการณ์โดยเร็ว

4. การบันทึกข้อมูลและการวิเคราะห์ย้อนหลัง

   • ข้อมูลการเคลื่อนไหวและสัญญาณเตือนจะถูกบันทึกเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทำงานในอนาคต

   • ผู้บริหารสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพื่อประเมินประสิทธิภาพและปรับปรุงการใช้งานระบบให้ดียิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้รับ

• ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ:
  การหยุดการเคลื่อนไหวอัตโนมัติเมื่อเกิดการเข้าใกล้เกินกว่าระยะที่กำหนดช่วยลดการชนกันระหว่างหุ่นยนต์และรถยกได้อย่างมีนัยสำคัญ

• เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน:
  ระบบแจ้งเตือนที่แม่นยำและทันทีทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตอบสนองได้ทันเวลาช่วยป้องกันสถานการณ์ที่อาจเกิดอุบัติเหตุ

• ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน:
  ด้วยการลดเหตุการณ์ที่ทำให้ระบบต้องหยุดชะงักและลดเวลาการเกิดอุบัติเหตุ กระบวนการทำงานในโกดังสินค้าจึงราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• การบำรุงรักษาและการวิเคราะห์ที่มีข้อมูลรองรับ:
  การเก็บบันทึกข้อมูลช่วยให้มีพื้นฐานในการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการทำงานในอนาคต ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับระบบ

บริบทและปัญหาที่พบ

บริษัทหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการผลิตมีปัญหาหลักสองประการ:

• การจัดการคลังสินค้าที่ซับซ้อน:
  คลังสินค้ามีรถยกจำนวนมากและขาดการติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการค้นหารถยกและการบริหารจัดการสต็อกสินค้า

• ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในโรงงานผลิต:
  ในโรงงานผลิตสินค้าขนาดใหญ่ รถยกบางคันมักเคลื่อนที่ออกนอกขอบเขตที่กำหนด ทำให้เกิดเหตุการณ์ชนและอุบัติเหตุภายในพื้นที่ผลิต

แนวทางแก้ไข

บริษัทได้นำระบบ RTLS จาก BlueIot มาใช้ในการจัดการทั้งสองปัญหาดังนี้:

1. การใช้เทคโนโลยี AoA สำหรับการระบุตำแหน่งที่แม่นยำ:

   • ติดตั้งเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี AoA (Angle of Arrival) ในรถยกทุกคัน ทำให้สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำในระดับ sub-meter

   • ข้อมูลตำแหน่งรถยกแสดงบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ช่วยลดเวลาในการค้นหารถยกและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและบริหารจัดการสินค้าคลัง

2. การติดตั้งระบบตรวจสอบเขต (Electronic Fencing):

   • กำหนดขอบเขตการทำงานของรถยกในโรงงานผลิตอย่างชัดเจน

   • เมื่อมีรถยกออกนอกขอบเขตที่กำหนด ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันที ทั้งนี้ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ผลิต

ผลลัพธ์ที่ได้รับ

• ลดระยะเวลาในการค้นหารถยกและตรวจสอบสต็อกสินค้า:
  ระบบระบุตำแหน่งที่แม่นยำช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถค้นหารถยกที่ต้องการได้รวดเร็ว ลดความล่าช้าในการปฏิบัติงานและปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า

• เพิ่มความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ:
  การใช้งานระบบตรวจสอบเขต (Electronic Fencing) ทำให้สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรถยกออกนอกพื้นที่ที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนทันที ช่วยลดความเสี่ยงของการชนและอุบัติเหตุภายในโรงงานผลิต

• การตรวจสอบและควบคุมที่แม่นยำ:
  การติดตามตำแหน่งด้วยเทคโนโลยี AoA ที่ให้ความแม่นยำระดับ sub-meter ช่วยให้สามารถติดตามสถานะและการใช้งานของรถยกได้อย่างครบถ้วน ซึ่งส่งผลให้การบริหารงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น