ข้อดีของระบบ RTLS (General Benefits)
-
เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการทรัพย์สิน
-
ลดเวลาค้นหาอุปกรณ์–บุคลากร
-
เพิ่มความปลอดภัย (แจ้งเตือนออกนอกพื้นที่)
-
รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Analytics & Reporting)
รองรับการใช้งานผ่าน API (Open API Support)
- Location Data API : ดึงข้อมูลตำแหน่งเรียลไทม์ของอุปกรณ์ บุคลากร หรือยานพาหนะ, Query ระยะเวลา (History) และสถานะปัจจุบัน (Current)
- IoT Data API : รับค่าสถานะและเซนเซอร์จากอุปกรณ์ IoT (เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แบตเตอรี่)
- Events & Reports API : แจ้งเตือน (alerts), สร้างรายงานเชิงลึก (analytics)
- Work Instructions API : Track Status ของงาน (Pending, In-progress, Completed)
ระบบนำทาง แบบภายใน (Intelligent navigation system)
ฟังก์ชันหลักของระบบ RTLS
-
Geo Fence: วาดเขตพื้นที่เตือนล่วงหน้า เมื่อแท็กเคลื่อนที่ออกนอกเขตจะส่งสัญญาณเตือนทันที
-
Regional Statistic: กำหนดโซนเก็บสถิติ บันทึกเวลาเข้า–ออกและระยะเวลาพักในแต่ละพื้นที่
-
Trajectory: ค้นหาและเล่นซ้ำเส้นทางเคลื่อนที่ตามช่วงเวลา ทั้งแบบเรียลไทม์และย้อนหลัง
-
Camera Linkage: ผสานกล้องวงจรปิด ล็อกหน้าจอภาพจากกล้องที่อยู่ใกล้แท็กแบบอัตโนมัติ
สรุปข้อดี ของระบบ RTLS (Real Time Tracking System)
-
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
ใช้โปรโตคอลและชิปเซ็ตรุ่นล่าสุด (เช่น UWB, BLE 5.2) ลดสัญญาณรบกวน รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Angle-of-Arrival เพื่อการติดตามที่เสถียรและรวดเร็วกว่าเดิม -
รองรับ IoT Sensor ต่างๆ
ผสานได้ทั้ง Temperature, Humidity, Motion, Door-Contact ฯลฯ ช่วยให้เก็บข้อมูลสภาวะแวดล้อมควบคู่กับตำแหน่งแบบเรียลไทม์ -
ลงทุนไม่สูง
โมดูล Tag/Anchor ต้นทุนต่ำ ติดตั้งง่ายบนโครงสร้างเดิม ไม่ต้องเดินสายเพิ่ม ลดค่าแรงและค่าโครงข่าย -
ความแม่นยำสูงสุด < 10 เซนติเมตร
ด้วย UWB และเทคนิค AoA/ToF ช่วยกำหนดตำแหน่งแม่นยำสูงภายในอาคาร กระโดดเข้าใกล้วัตถุเป้าหมายได้แม่นยำระดับเซนติเมตร -
อายุการใช้งานแบตฯ อุปกรณ์ยาวนาน
Tag แบบ Low-Power ออกแบบให้ส่งสัญญาณทุก 1–5 วินาที แต่ยังใช้งานได้ 6–18 เดือนต่อการชาร์จ/เปลี่ยนแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง -
รองรับการใช้งานหลายรูปแบบ
ตั้งค่าได้ทั้ง Tracking (ติดตามเคลื่อนไหว), Geofencing (เขตพื้นที่เสมือน), Analytics (เก็บสถิติพฤติกรรม) และ Alarm (แจ้งเตือนเงื่อนไขพิเศษ) -
สามารถเชื่อม API ภายนอกได้
มี REST/WebSocket API ให้ดึง–ส่งข้อมูลตำแหน่งไปยังระบบ ERP, WMS, HIS หรือระบบ BI ต่างๆ เพื่อใช้งานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ
กรณีศึกษา | Use cases
เรือนจำ
ติดตามนักโทษ และ บุคคลากรในคุกแบบเรียลไทม์ และตั้งแจ้งเตือนเมื่อมีการออกนอกพื้นที่ ที่ตั้งไว้
ข้อมูลเพิ่มเติมสินค้าที่เกี่ยวข้อง
RTLS (Real-time Locating system) คืออะไร?
หรือหลายๆครั้งก็จะถูกเรียกว่า Real-time Tracking System ถ้าแปลเป็นไทยง่ายๆอาจจะเรียกว่า ระบบแจ้งพิกัดแบบตรงเวลาปัจจุปัน(คือไม่มีความหน่วงของข้อมูล) หรือระบบติดตามแบบเรียลไทม์ โดยปกติเราจะใช้ติดกับสิ่งของ หรือ บุคคลที่เราต้องการทราบตำแหน่งแล้วนำเข้ามูลมาใช้แสดงผลหรือสร้างเงื่อนไขในการทำงานบางอย่าง
ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกสาหกรรม ไม่ว่าจะโกดัง โรงงาน โรงพยาบาล เป็นต้น
หลักการทำงานของ RTLS
RTLS มีหลายเทคโนโลยีด้วยกัน เช่น UWB Bluetooth RSSI เป็นต้น แต่ของเราเลือกใช้ RTLS AoA (angle or arrival) ทำงานโดยการส่งคลื่นระหว่างตัวแท็กติดตาม(tags) ไปยังตัวภาครับสัญญาณ(anchor point) และส่งข้อมูลมายังระบบประมวลผลตำแหน่ง(locating engine) ก่อนจะนำไปแสดงผลหรือใช้งานในขั้นต่อไป
คำถามที่พบบ่อย | FAQ
RTLS มีความแม่นยำสูงกว่า GPS โดยเฉพาะในพื้นที่ภายในอาคาร ด้วยความแม่นยำสูงสุดถึง 0.1 เมตร (10 เซนติเมตร) ในขณะที่ GPS มักใช้กับการติดตามภายนอกและมีความแม่นยำต่ำกว่า นอกจากนี้ RTLS ยังใช้พลังงานต่ำ ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานหลายเดือนถึงหลายปี.
-
การดูแลสุขภาพ (Healthcare): RTLS ช่วยในการติดตามอุปกรณ์ทางการแพทย์ บุคลากร และผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยและการดำเนินงานร่วมกับระบบ HIS (Hospital Information System)
-
การผลิต (Manufacturing): ใช้ในการติดตามวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการผลิต ช่วยในการจัดการและลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิต
-
โลจิสติกส์และคลังสินค้า (Logistics & Warehousing): ระบบ RTLS ช่วยให้สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าในคลังได้อย่างแม่นยำ เชื่อมต่อกับระบบ ERP ได้อย่างสมบูรณ์
-
การค้าปลีก (Retail): ใช้ในการปรับราคาและแสดงข้อมูลสินค้าบนชั้นวาง ลดภาระการทำงานของพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลลูกค้า
-
ทัณฑสถานหรือเรือนจำ (Correctional Facilities): RTLS สามารถใช้เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ เพิ่มความปลอดภัยและการควบคุมในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเข้มงวดสูง
A: ใช่ RTLS ของ PrezON สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว เช่น ERP และระบบ Automation เพื่อให้การติดตามและจัดการข้อมูลมีความราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.