กริ่งฉุกเฉินโรงพยาบาล มีกี่แบบ และแตกต่างจากระบบเรียกพยาบาลอย่างไร

เวลาพูดถึงคำว่า “กริ่งฉุกเฉินโรงพยาบาล” หลายคนอาจนึกถึงปุ่มกดสีแดงที่อยู่ข้างเตียงหรือในห้องน้ำของผู้ป่วย ที่สามารถกดเรียกพยาบาลได้ทันทีเมื่อมีเหตุจำเป็น ซึ่งจริง ๆ แล้ว ระบบนี้ก็คือส่วนหนึ่งของ “ระบบเรียกพยาบาล” (Nurse Call System) ที่โรงพยาบาลทุกแห่งจำเป็นต้องมี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตอบสนองได้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุด

แต่ในปัจจุบัน คำว่า “กริ่งฉุกเฉินโรงพยาบาล” ถูกใช้ใน 2 ความหมายหลัก ๆ ตามลักษณะของการติดตั้งและเทคโนโลยีที่เลือกใช้ มาดูกันว่าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร และแบบใดเหมาะกับโรงพยาบาลของคุณมากที่สุด

🔸 แบบที่ 1: กริ่งฉุกเฉินแบบไร้สาย (Wireless Emergency Call)

รูปแบบนี้คือการใช้ กริ่งไร้สาย เข้ามาแทนระบบเรียกพยาบาลแบบเดิม เหมาะกับโรงพยาบาลขนาดเล็ก คลินิก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการระบบเรียกพยาบาลอย่างง่ายโดยไม่ต้องเดินสายไฟ

ระบบจะส่งสัญญาณผ่านคลื่นวิทยุ (RF) หรือ Wi-Fi ไปยังจอแสดงผลหรือรีซีฟเวอร์ (Receiver) เมื่อผู้ป่วยกดปุ่ม สัญญาณจะถูกส่งไปยังจุดควบคุมในทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่ามีการกดเรียกจากห้องใด

ข้อดีของกริ่งฉุกเฉินไร้สาย

ติดตั้งรวดเร็ว ไม่ต้องเจาะผนังหรือเดินสาย
เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ได้ง่าย เหมาะกับหอผู้ป่วยชั่วคราว
ราคาประหยัด ดูแลรักษาง่าย

อย่างไรก็ตาม ระบบไร้สายอาจมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางและการรบกวนสัญญาณ จึงเหมาะกับหน่วยงานขนาดเล็กหรือพื้นที่ไม่ซับซ้อนมากนัก

🔹 แบบที่ 2: ระบบเรียกพยาบาลที่ใช้ชื่อว่า “กริ่งฉุกเฉินโรงพยาบาล”

ในโรงพยาบาลขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มักจะใช้คำว่า “กริ่งฉุกเฉิน” แทนคำว่า “Nurse Call” เพื่อให้เข้าใจง่ายกับผู้ใช้งานทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วคือระบบเดียวกัน — เพียงแค่มีรูปแบบเทคโนโลยีที่หลากหลาย ได้แก่

ประเภทระบบ	วิธีการทำงาน	จุดเด่น
ระบบมีสาย (4-Wired)	เดินสายสัญญาณระหว่างห้องผู้ป่วยกับสถานีควบคุม	สัญญาณเสถียร ใช้งานได้ต่อเนื่อง
ระบบไร้สาย (Wireless)	ใช้คลื่น RF/LoRa แจ้งเตือนผ่านจอแสดงผล	ติดตั้งง่าย ปรับขยายได้
ระบบ IP (ผ่าน LAN/Wi-Fi)	เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ส่งข้อมูลเรียลไทม์	รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อระบบอื่นๆ

ระบบเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับ ไฟแจ้งเตือนหน้าห้อง (Corridor Light) เพื่อเพิ่มความชัดเจนในการแจ้งเหตุฉุกเฉิน และยังบันทึกเวลาเรียก–เวลาเข้าช่วยเหลือไว้ในฐานข้อมูล ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพงานพยาบาลได้

ตารางเปรียบเทียบ “กริ่งฉุกเฉินโรงพยาบาล” ทั้ง 2 แบบ

รายการ	แบบไร้สายแทนระบบเดิม	ระบบเรียกพยาบาล (มีสาย / ไร้สาย / IP)
ลักษณะระบบ	อุปกรณ์กดและตัวรับสัญญาณแบบอิสระ	ระบบครบวงจรเชื่อมทุกห้อง
เหมาะกับ	คลินิก / หอผู้ป่วยชั่วคราว / บ้านพักผู้สูงอายุ	โรงพยาบาลขนาดกลาง–ใหญ่
การติดตั้ง	ง่าย ไม่ต้องเดินสาย	ต้องวางแผนโครงสร้างระบบ
การแจ้งเตือน	ผ่านเสียงและไฟเฉพาะจุด	แจ้งเตือนหลายจุดพร้อมกัน / แสดงบนจอ
งบประมาณ	ประหยัด	สูงกว่า แต่ครบและขยายได้

สรุป

ไม่ว่าจะเรียกว่า “กริ่งฉุกเฉินโรงพยาบาล” หรือ “ระบบเรียกพยาบาล” จุดประสงค์หลักเหมือนกัน คือ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถขอความช่วยเหลือได้ทันเวลา ระบบไร้สายอาจเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งรวดเร็ว ส่วนระบบแบบ IP หรือมีสายจะเหมาะกับโรงพยาบาลที่ต้องการมาตรฐานและความเสถียรสูงกว่า